ต้องขอออกตัวว่าไม่ได้เป็นสัตวแพทย์แต่อย่างใด เอามาจากประสบการณ์ล้วนๆ
อย่างแรกที่เริ่มศึกษาหาข้อมูลในการเลี้ยง ไม่ได้เคยนึกถึงว่าจะต้องมีการเตรียมยาไว้ให้เค้าด้วย แต่จากการที่เลี้ยงมาได้ 7 ปี ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยก็น่าจะต้องมีสิ่งเหล่านี้เตรียมไว้บ้าง
1.เบตาดีน
ทำไมต้องเบตาดีน อย่างแรกถ้าใช้แอลกอฮอล์กระต่ายก็จะแสบแผล (ขนาดคนยังแสบเลย T-T)แล้วมันก็ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ เมื่อเวลากระต่ายซนมีแผล ยิ่งถ้าใครเลี้ยงหลายตัว แล้วเกิดการต่อสู้กันจะได้ทำความสะอาดแผลให้น้องกระต่ายได้
2.Laxatone (แล็กซาโทน)
อันนี้แก้อาการก้อนขน เวลาที่กระต่ายเริ่มมีอาการ กินอาหารน้อยลง เริ่มอยู่นิ่งๆ ไม่ค่อยแต่งตัว ไม่ดูแลตัวเองท้องป่องๆ ก็จะเริ่มป้อน laxatone ให้ จากที่ใช้อยู่จะใช้หลอดสีแดง ป้อนครั้งละ 3 cc.เช้า-เย็น ซึ่งอันนี้คุณหมอแนะนำว่ากินได้ถ้าหากเราสงสัยว่าเค้าจะมีก้อนขนในท้อง โดยปรกติจะให้อยู่ 3 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรพาไปหาหมอ
3.ยาคูลท์
สงสัยละสิว่ามันยาตรงไหน ขอบอกว่าเป็นพระเอกเลยละ เพราะโดยปรกติในกระเพาะของกระต่ายจะมีแบคทีเรียที่เป็นชนิดเดียวกันกับแบคทีเรียในยาคูลท์(อันนี้หมอบอกมา) กระต่ายบางครั้งที่เค้ากินน้อยลงอาจจะไม่ใช่ว่าเค้าเป็นก้อนขนเสมอไป แต่อาจเป็นเพราะแบคทีเรียชนิดนี้มีน้อย ทำให้อาหารย่อยยาก โดยเฉพาะถ้ากินแต่อาหารเม็ด เราก็ต้องเพิ่มแบคทีเรียให้เค้า แต่จริงๆแล้ว ถ้าใครที่เลี้ยงกระต่ายจะสังเกตว่า กระต่ายจะมีอึอยู่ 2 แบบ แบบที่เป็นก้อนกลมแข็งๆ และแบบพวงองุ่นแบบพวงองุ่นจะมีแบคทีเรียชนิดนี้อยู่เหมือนกัน โดยปรกติที่ให้เองจะให้ เช้า-เย็น ครั้งละ 3-5 cc. แต่ไม่ควรเกิน 3 วัน ถ้ากระต่ายยังไม่ยอมกินอะไรอีกควรพาไปหาหมอจะดีกว่า
เท่าที่เลี้ยงมามี 3 อย่างนี่แหละที่ใช้เสมอ แต่ก็อย่างที่บอกว่ากระต่ายเป็นผู้ถูกล่าตามธรรมชาติ เค้ามักจะปกปิดอาการเจ็บป่วยของตัวเองผู้เลี้ยงควรจะเอาใจใส่เป็นพิเศษ หากการผิดสังเกต ไม่ควรปล่อยไว้นานควรรีบพาไปหาหมอโดยเร็ว ไม่งั้นคุณอาจจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังนะจ๊ะ
ปล. ส่วนอาการ ท้องเสีย เป็นหวัด ฯลฯ แนะนำให้ปรึกษาหมอเลยดีกว่า เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยให้ยาเอง อย่างพวกยาห้ามถ่าย อะไรพวกนี้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น